1. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ ชิระคะวะโกะ และโกคะยะมะ ในจ.กิฟุ
ศิลปะสไตล์แกซโซ ( Gassho ) ในหมู่บ้าน Shirakawa และ
Gokayama ในเมือง Toyama หลังคาจะมีรูปแบบเฉพาะตัวถูกออกแบบโดยองค์กรยูเนสโก
( UNESO) ในปี 1995 สถาปัตยกรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัวนี้ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อการอยู่รอดในฤดูหนาวซึ่งจะมีหิมะปกคลุมหนามากและเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ซึ่งเป็นวิถีชีวิตส่วนใหญ่ของคนที่นี่
2.อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของเมืองเก่าเกียวโต
(เมืองฟูจิ และโอทจึ)
เกียวโตซึ่งสร้างใน คริสต์ศักราช 794 (พุทธศักราช 1337) ตามแบบเมืองหลวงของจีนโบราณ
เป็นเมืองหลวงสำคัญของจักรวรรดิญี่ปุ่น ยุคเริ่มแรกจนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศตวรรษที่ 24) ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมามากกว่า 1,000 ปี เกียวโตแสดงให้เห็นพัฒนาการของสถาปัตยกรรมไม้แบบญี่ปุ่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวกับศาสนา
และศิลปะของสวนญี่ปุ่นซึ่งมีอิทธิพลการจัดภูมิทัศน์สวนทั่วโลก
3.สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
และเส้นทางจาริกแสวงบุญ แถบเทือกเขาคิอิ
แถบเทือกเขาคิอิ (Kii Mountain Range) เทือกเขาที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และ เส้นทางจาริกแสวงบุญ
โดยภายในนั้นประกอบไปด้วย สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ถึง 3 แห่ง
ซึ่งแต่ละแห่งก็ล้วนได้รับความนิยมจากนักแสวงบุญที่ต่างมาจาริกแสวงบุญเป็นจำนวนมาก
เทือกเขาคิอิ ตั้งอยู่ในคาบสมุทรคิอิ ของประเทศญี่ปุ่น
สภาพทั่วไปของเทือกเขาคิอินั้นส่วนใหญ่จะเป็นป่าทึบหนาแน่นที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์
และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา ชินโต และ พุทธ
นอกจากนั้นภายในเทือกเขายังมีธารน้ำ แม่น้ำ และน้ำตกที่สวยงามมาก
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเทือกเขาคิอินั้น ประกอบไปด้วย
วัด และ ศาลเจ้า ที่มีมากมายหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งก็มีความเก่าแก่ถึง 1,200 ปี แต่ละแห่งก็ล้วนมีผู้คนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก ในปี ค.ศ.2004 องค์การยูเนสโกได้รับการรับรองให้เทือกเขาคิอิเป็นมรดกโลก
4. ปราสาทฮิเมจิโจ
ในจังหวัดเฮียวโกะ
ปราสาทฮิเมจิ ( Himeji-jo, Himeji
Castle) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิจังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม
ปี 1993 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีงดงามที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว
ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง
ในปัจจุบันปราสาทฮิเมจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก
จุดเด่นของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิเมจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งาน
จุดเด่นของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิเมจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งาน
5.
อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะ
อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะ (Hiroshima
Peace Memorial) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า โดมปรมาณู ตั้งอยู่ในเมืองฮิโระชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ในอาณาเขตของสวนสันติภาพฮิโระชิมะได้รับการก่อตั้งเป็นอนุสรณ์ในปีพ.ศ. 2539 และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีเดียวกัน
อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะเป็นอาคารที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางการระเบิดมากที่สุดในบรรดาอาคารที่ยังตั้งทนต่อแรงระเบิด ตัวอาคารได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพหลังจากถูกระเบิด
ปัจจุบันได้กลายเป็นอนุสรณ์เตือนให้ระลึกถึงพลังทำลายล้างของระเบิดปรมาณู
และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในสันติภาพและการต่อต้านการใช้อาวุธปรมาณู
อ้างอิง
http://japanrium.exteen.com/20080916/entry-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น