วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

มรดกโลกประเทศญี่ปุ่น

       มรดกโลกที่สำคัญของญี่ปุ่นหลายแห่ง ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย และอากาศที่ต่างกันไปในสี่ฤดู อย่างเช่น สวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ ซึ่งทำให้ทุกคนระลึกถึงความสูญเสียในอดีต ในบรรดามรดกโลกทางประวัติศาสตร์ มีโบราณสถานหลายแห่ง ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเอกลักษณ์เฉพาะของชาวญี่ปุ่นที่เที่ยงตรง เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และมีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ผู้มาเยือนเข้าใจลึกซึ้งถึงจิตใจของชาวญี่ปุ่น และรากฐานทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น




1. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ ชิระคะวะโกะ และโกคะยะมะ ในจ.กิฟุ
         ศิลปะสไตล์แกซโซ ( Gassho ) ในหมู่บ้าน Shirakawa และ Gokayama ในเมือง Toyama หลังคาจะมีรูปแบบเฉพาะตัวถูกออกแบบโดยองค์กรยูเนสโก ( UNESO) ในปี 1995 สถาปัตยกรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัวนี้ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อการอยู่รอดในฤดูหนาวซึ่งจะมีหิมะปกคลุมหนามากและเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ซึ่งเป็นวิถีชีวิตส่วนใหญ่ของคนที่นี่



2.อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของเมืองเก่าเกียวโต (เมืองฟูจิ และโอทจึ)
          เกียวโตซึ่งสร้างใน คริสต์ศักราช 794 (พุทธศักราช 1337) ตามแบบเมืองหลวงของจีนโบราณ เป็นเมืองหลวงสำคัญของจักรวรรดิญี่ปุ่น ยุคเริ่มแรกจนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พุทธศตวรรษที่ 24) ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมามากกว่า 1,000 ปี เกียวโตแสดงให้เห็นพัฒนาการของสถาปัตยกรรมไม้แบบญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวกับศาสนา และศิลปะของสวนญี่ปุ่นซึ่งมีอิทธิพลการจัดภูมิทัศน์สวนทั่วโลก


3.สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเส้นทางจาริกแสวงบุญ แถบเทือกเขาคิอิ
      แถบเทือกเขาคิอิ (Kii Mountain Range) เทือกเขาที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และ เส้นทางจาริกแสวงบุญ โดยภายในนั้นประกอบไปด้วย สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ถึง 3 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็ล้วนได้รับความนิยมจากนักแสวงบุญที่ต่างมาจาริกแสวงบุญเป็นจำนวนมาก 
     เทือกเขาคิอิ ตั้งอยู่ในคาบสมุทรคิอิ ของประเทศญี่ปุ่น สภาพทั่วไปของเทือกเขาคิอินั้นส่วนใหญ่จะเป็นป่าทึบหนาแน่นที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา ชินโต และ พุทธ นอกจากนั้นภายในเทือกเขายังมีธารน้ำ แม่น้ำ และน้ำตกที่สวยงามมาก 
      สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเทือกเขาคิอินั้น ประกอบไปด้วย วัด และ ศาลเจ้า ที่มีมากมายหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งก็มีความเก่าแก่ถึง 1,200 ปี แต่ละแห่งก็ล้วนมีผู้คนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก ในปี ค.ศ.2004 องค์การยูเนสโกได้รับการรับรองให้เทือกเขาคิอิเป็นมรดกโลก



4. ปราสาทฮิเมจิโจ ในจังหวัดเฮียวโกะ
           ปราสาทฮิเมจิ ( Himeji-jo, Himeji Castle) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิจังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1993 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีงดงามที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก
          จุดเด่นของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิเมจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งาน



5. อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะ 
             อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะ (Hiroshima Peace Memorial) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า โดมปรมาณู ตั้งอยู่ในเมืองฮิโระชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ในอาณาเขตของสวนสันติภาพฮิโระชิมะได้รับการก่อตั้งเป็นอนุสรณ์ในปีพ.ศ. 2539 และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีเดียวกัน
         อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะเป็นอาคารที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางการระเบิดมากที่สุดในบรรดาอาคารที่ยังตั้งทนต่อแรงระเบิด  ตัวอาคารได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพหลังจากถูกระเบิด ปัจจุบันได้กลายเป็นอนุสรณ์เตือนให้ระลึกถึงพลังทำลายล้างของระเบิดปรมาณู และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในสันติภาพและการต่อต้านการใช้อาวุธปรมาณู






อ้างอิง
http://japanrium.exteen.com/20080916/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น