วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

ข้อมูลการเดินทาง


การเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
   ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยต้องขอรับการตรวจลงตรา (visa) ประเภทที่ถูกต้องก่อนเข้าญี่ปุ่น ยกเว้นผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ การเดินทางโดยเครื่องบินตรงจากประเทศไทยไปญี่ปุ่น (กรุงโตเกียว) ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง



หนังสือเดินทางและวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น
   หนังสือเดินทางมีอายุที่ใช้งานมากกว่า 6 เดือน ดูรายละเอียดการทำหนังสือเดินทางได้ที่ http://www.consular.go.th/ ขอวีซ่าจากสถานทูตญี่ปุ่นโปรดเตรียมเอกสารหลักฐานที่ระบุไว้ในการขอวีซ่า และกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทราบผลวีซ่าอย่างเร็วใน 5 วันทำการหรือมากกว่า โปรดเผื่อเวลาในการยื่นวีซ่า ไม่ควรยื่นใกล้วันเดินทางอย่างกระชั้นชิด โปรดสอบถามได้ที่สถานทูตฯ ญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลญี่ปุ่นประจำเชียงใหม่

ยื่นขอวีซ่าได้ที่
กรุงเทพฯ
ศูนย์รับยื่นขอวีซ่า JVAC (Japan Visa Application Center) 
การรับยื่นคำร้อง : วันจันทร์ - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08:30 น. ถึง 17:30 น. (ไม่มีพักกลางวัน)
การคืนหนังสือเดินทาง : วันจันทร์ - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08:30 น. ถึง 17:30 น. (ไม่มีพักกลางวัน) วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08:30 น. ถึง 12:30 น.
ระยะเวลาดำเนินการ : อย่างน้อย 5 วันทำการนับจากวันที่รับยื่นคำร้อง (ยกเว้นวันเสาร์)
สถานที่ : ชั้น 15 ยูนิต C ตึกสีลมคอมเพล็กซ์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์ : 02-632-1541-4
เวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 8:30 - 17:30 น.
วันเสาร์ ระหว่างเวลา 8:30 - 12:30 น.
(คืนหนังสือเดินทางเท่านั้น)
ที่ทำการ: อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 15
(มีทางเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง)
เลขที่ 191 ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์: 02-632-1541

เชียงใหม่
สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่
ที่อยู่: อาคารแอร์พอร์ต บิสซิเนสปาร์ค ห้อง 104-107 ถนนมหิดล
ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50100
โทรศัพท์ : 053-203367
ฝ่ายวีซ่า: เบอร์โทรศัพท์ติดต่อภายใน 101 (ภาษาญี่ปุ่น), 102 (ภาษาไทย)
โทรสาร: 053-203373
เวลารับคำร้องขอวีซ่า เวลายื่นคำร้องขอวีซ่า : 08:30-12:00 เวลารับวีซ่า : 13:00-16:00
วันหยุด วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด

การประกันภัยระหว่างการเดินทาง
     ท่านควรจะทำการประกันภัยระหว่างเดินทาง ก่อนออกเดินทางจากประเทศไทย กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุโดยทั่วๆ ไป จะครอบคลุมไปจนถึงทรัพย์สินส่วนตัวสูญหาย ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย และประกันความเสี่ยงชนิดอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการเดินทาง

เสื้อผ้าที่ควรเตรียม
     ฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง จะต้องเตรียมแจ๊กเก็ตและสะเว็ตเตอร์กันหนาว ฤดูร้อนให้เตรียมเสื้อผ้าบางเบา แขนสั้น ฤดูหนาว จำเป็นต้องมีเสื้อคลุมโอเวอร์โค๊ต ชุดผ้าขนสัตว์และแจ๊กเก็ตชนิดหนาเป็นพิเศษ ตลอดจนสะเว็ตเตอร์สำหรับฤดูหนาวไม่ค่อยจำเป็น ที่จะต้องนำเสื้อผ้าสำหรับใช้อย่างเป็นพิธีรีตองหรือพิธีการ จำพวกทักซิโดและเสื้อราตรี หากเกิดความจำเป็นก็มีร้านให้เช่า  ถุงเท้าสะอาดและสมบูรณ์เป็นสิ่งจำเป็น เพราะว่ามีบ่อยครั้งที่ท่านจำเป็นจะต้องถอดรองเท้าออก เช่นตามภัตตาคารญี่ปุ่นบางแห่ง หรือเมื่อก้าวเข้าบริเวณ ชานหน้าบ้านของชาวญี่ปุ่น ก่อนเข้าห้องรับแขก

การนำเข้าสิ่งของโดยปลอดภาษี
การนำเข้าสิ่งของโดยปลอดภาษี ของใช้ส่วนตัวและอุปกรณ์ประกอบอาชีพ สามารถนำเข้าไปในญี่ปุ่นได้โดยปลอดภาษี นอกจากนี้ ท่านยังสามารถนำเข้าโดยปลอดภาษี มีบุหรี่ 400 มวน ยาสูบ 500 กรัม หรือซิการ์ 100 มวน เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ 3 ขวด น้ำหอม 2 ออนซ์ ตลอดจนของที่ระลึก ซึ่งตีราคารวมกันแล้วไม่ถึง 200,000 เยนหรือเทียบเท่า บุคคลที่อายุยังไม่ถึง 19 ปี และอายุเพียง 19 ปี ไม่อนุญาตให้นำเข้าบุหรี่หรือเครื่องดื่มมีอัลกอฮอล์ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จากเว็ปไซน์ http://www.narita-airport.jp/en/bf/step/arr.html#step5









อ้างอิง
http://www.biz.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=572463&Ntype=41
http://www.bkkfly.com/N_japan.html



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น